ในการทำการตลาดออนไลน์ เทคนิคสำคัญอีกอย่างที่นิยมใช้ คือการทำ Retargeting (หรือ Remarketing) หมายถึงการกระตุ้นให้ลูกค้าที่เคยซื้อ เคยเข้ามาชมสินค้า หรือเคยมี Action ใด ๆ ในเว็บไซต์ของเรา ให้เกิดความสนใจ เกิดความต้องการซื้อ และกลับมาซื้อสินค้าของเราอีกครั้ง
ยกตัวอย่างง่าย ๆ เช่น การที่เราเห็นโฆษณาจากเว็บไซต์ หรือร้านค้าออนไลน์ที่เราเคยเข้าไปดูสินค้า ปรากฏบนหน้า Feed ของเราบ่อย ๆ ไม่ว่าจะเป็นบน Facebook Instagram หรือโซเชียลมีเดียอื่น ๆ ซึ่งนั่นไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เป็นกลยุทธ์ในการทำการตลาดออนไลน์ที่เรียกว่า Retargeting นั่นเอง
การทำ Retargeting จึงเป็นหนึ่งวิธีสำคัญในการทำโฆษณาออนไลน์ที่เพิ่มโอกาสในการสร้างยอดขายให้กับสินค้าและบริการของเราได้ ซึ่งเราอาจจะใช้เทคนิคการลดราคา การให้ของแถม ในระยะเวลาที่จำกัด เพื่อกระตุ้นให้ลูกค้าที่เห็นโฆษณาของเราอีกครั้งเกิดความต้องการซื้อมากขึ้นได้
แล้วเราสามารถทำ Retargeting ผ่านช่องทางใดได้บ้าง?
เราสามารถทำ Retargeting ได้หลายช่องทาง ซึ่งในปัจจุบันแต่ละแพลตฟอร์มต่างก็พัฒนาให้มีระบบการทำ Retargeting ได้ ซึ่งช่วยให้ผู้ที่ไม่มีความชำนาญด้านการเขียนโค้ดสามารถทำ Retargeting ได้ด้วยตัวเอง ลองตาม DIGITORY มาดูกันเลยว่าจะมีช่องทางไหนบ้าง
Facebook Dynamic Ads หรือ Product Catalog Sales
เป็นการยิงโฆษณาสินค้าตัวที่ลูกค้าเคยคลิกดู หรือเคยสนใจ ให้ลูกค้าคนนั้นได้เห็นสินค้าดังกล่าวอีกครั้ง เพียงแค่สร้าง Facebook Shop และใส่สินค้าไว้ที่ส่วนร้านค้า ใส่รายละเอียดและราคาให้เรียบร้อย (สามารถดูวิธีสร้าง Facebook Shop ได้ ที่นี่) สร้างและติดตั้ง Facebook Pixel เพื่อเป็นตัวเก็บข้อมูล (สามารถดูวิธีสร้างได้ ที่นี่ ) เราก็สามารถทำ Dynamic Ads ได้ทันที
ข้อดีของการทำ Facebook Dynamic Ads
- โฆษณาดูมีความน่าสนใจ
- ลูกค้าจะเห็นสินค้าที่ตรงกับความต้องการจริง ๆ
- สามารถเห็นโฆษณาได้ทุกอุปกรณ์
Google Remarketing หรือ Google RLSA (Remarketing List for Search Ads)
Google Remarketing คือ การทำโฆษณาแบบติดตามคนที่เคยเข้าเว็บไซต์แต่ยังไม่ซื้อสินค้าของเราในทันที โดยกลุ่มคนเหล่านี้จะได้เห็นโฆษณาในลักษณะแบนเนอร์ของเราตามเว็บไซต์ต่าง ๆ ที่เป็นพาร์ทเนอร์กับ Google ซึ่งจะช่วยตอกย้ำความสนใจให้กลับมาซื้อสินค้าอีกครั้งได้
ส่วน Google RLSA (Remarketing List for Search Ads) คือ การทำโฆษณาในหน้าการค้นหาของ Google Search โดยจะเป็นโฆษณารูปแบบ Text Ads ที่ติดตามกลุ่มผู้ที่เคยเข้าเว็บไซต์ของเราบนหน้าการค้นหา เมื่อคนกลุ่มนี้กลับมาค้นหาด้วย Keyword ที่เราได้ซื้อไว้อีกครั้ง ก็จะเห็นโฆษณาของเราเป็นการย้ำเตือน
ข้อดีของการทำ Google Remarketing หรือ Google RLSA (Remarketing List for Search Ads)
- ลูกค้าสามารถเห็นโฆษณาได้ในหลากหลายช่องทาง ทั้ง Youtube เว็บไซต์ และแอปพลิเคชัน ที่เป็นพาร์ทเนอร์กับ Google
- โฆษณาเด่นสะดุดตา ดูมีความน่าเชื่อถือ
- ช่วยสร้างการจดจำแบรนด์ได้ดี
- สามารถแสดงข้อความโฆษณาที่แตกต่างกัน ระหว่างกลุ่มที่ไม่เคยเข้าชมเว็บไซต์ กับกลุ่มที่เคยเข้าชมเว็บไซต์
LINE Official Account Retargeting
LINE Official Account Retargeting คือการทำ Retargeting กับผู้ที่ติดตามบัญชี LINE Official Account ของเรา โดยการบรอดแคสต์ข้อความหรือโปรโมชันให้กับกลุ่มคนที่มีแนวโน้มจะซื้อสินค้า สามารถทำได้จาก 2 วิธี คือ จาก Click หรือ Impression
- Click Retargeting คือ การทำโฆษณากับคนที่เคยคลิกลิงก์ จากข้อความที่เราได้บรอดแคสต์ไป สามารถใช้ได้เมื่อมีคนคลิกตั้งแต่ 100 คนขึ้นไป
- Impression Retargeting คือ การทำโฆษณากับกลุ่มคนที่เห็นข้อความที่เราได้บรอดแคสต์ไป สามารถใช้ได้เมื่อมีคนเห็นข้อความของเรา 100 impression ขึ้นไป
ข้อดีของการทำ LINE Official Account Retargeting
- มีโอกาสสร้างยอดขายได้สูง เพราะเป็นกลุ่มลูกค้าที่ติดตามบัญชี LINE Official Account ของเราอยู่แล้ว
- เพิ่มคุณภาพในการส่งข้อความไปยังกลุ่มเป้าหมายใด้ถูกกลุ่มมากขึ้น
- จัดการโปรโมชันกระตุ้นความสนใจได้ง่าย
Twitter Retargeting
เป็นการทำ Retargeting บน Twitter โดยการสร้าง Tailored Audiences ที่จะช่วยให้เราสามารถระบุกลุ่มเป้าหมายที่ตรงกลุ่มหรือมีแนวโน้มในการซื้อสินค้าได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยโฆษณาจะปรากฏในหน้า Twitter ในลักษณะ Promote Tweet ของผู้ใช้ที่เป็นกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งอาจเคยเข้าไปเยี่ยมชมเว็บไซต์ เคยใช้แอปพลิเคชันของเรามาก่อน โฆษณาก็จะเป็นตัวย้ำเตือนให้กลุ่มเป้าหมายเกิดความสนใจและกระตุ้นให้กลับมาซื้อสินค้าหรือใช้แอปพลิเคชันอีกครั้งได้
ข้อดีของการทำ Twitter Retargeting
- เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ตรงกลุ่มมากขึ้น
- โฆษณาดูมีความน่าสนใจทำได้หลายรูปแบบ
- รูปแบบการโฆษณาดูแนบเนียนเหมือนกับ Tweet ปกติทั่วไป
ได้รู้ช่องทางการทำ Retargeting กันไปแล้ว สิ่งสำคัญอีกอย่างคือการพิจารณาช่องทางให้เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมายและประเภทของสินค้า เพราะถ้าเหากเราเลือกช่องทางไม่ตรงกับที่กลุ่มเป้าหมายใช้ การทำ Retargeting ก็จะไม่เกิดประสิทธิภาพเท่าที่ควร
สำหรับใครที่สนใจอยากเริ่มต้นทำ Retargeting แต่ยังไม่กล้าลงมือทำเอง ก็สามารถมาปรึกษาทีมสอนที่ DIGITORY ได้เลยค่ะ และสำหรับใครที่ไม่สะดวกทำเองแต่อยากได้ผู้เขี่ยวชาญคอยดูแลให้ก็สามารถติดต่อพาร์ทเนอร์ของเราได้ ที่นี่ ค่ะ
ถ้าไม่อยากพลาดข่าวสารการตลาดออนไลน์ อัพเดทเทรนด์ และโปรโมชันพิเศษ
ติดตาม LINE: @digitorystyle ได้เลย