Facebook เป็นแพลตฟอร์มหนึ่งที่คนทั่วโลกรวมถึงคนไทยนิยมใช้งาน เนื่องจากติดตามข่าวสารได้ง่าย และสามารถพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นได้หลายช่องทาง โดยในมุมมองของนักการตลาดแล้ว Facebook นับเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการทำโฆษณาอย่างมาก เพราะช่วยให้ผู้คนรู้จักกับแบรนด์ อัปเดตข่าวสารและโปรโมชั่นของธุรกิจได้ไม่ยาก
การทำโฆษณาบน Facebook จึงเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องและสามารถสร้างรายได้ให้กับแพลตฟอร์ม Facebook อย่างมหาศาล และในบทความนี้ DIGITORY จะมาเจาะลึกเกี่ยวกับการทำ Facebook Ads หรือการทำโฆษณา Facebook ให้ทุกคนฟังกันว่ามีฟีเจอร์ไหนน่าสนใจบ้าง เพื่อเป็นประโยชน์กับผู้ที่ต้องการเรียนรู้การทำการตลาดผ่าน Facebook นั่นเอง
ก่อนที่เราจะไปเรียนรู้เครื่องมือต่าง ๆ ในการทำ Facebook Ads เรามาทำความเข้าใจเกี่ยวกับการทำงานของ Facebook Ads กันก่อน
Facebook Ads มีกระบวนทำงานอย่างไร ?
เมื่อเราได้สร้างแคมเปญโฆษณาเรียบร้อยแล้ว โฆษณาดังกล่าวจะถูกส่งไปที่กลุ่มเป้าหมายที่เลือกเอาไว้ โดยทำงานผ่านระบบ Facebook Ads Algorithm อัลกอริทึมของ Facebook ที่ถูกออกแบบให้สามารถเข้าถึงผู้ที่ใช้งานอยู่บน Facebook ได้อย่างแม่นยำ ผ่านการศึกษาพฤติกรรมและความสนใจของผู้ใช้งานแต่ละคน พร้อมยังมีการอัปเดตความเปลี่ยนแปลงของผู้ใช้งานคนนั้น ๆ อยู่เสมอ เพื่อให้การนำเสนอโฆษณาของเราสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่เราเลือกไว้ได้อย่างแม่นยำและเกิดประโยชน์สูงสุด
สร้าง Facebook Ads อย่างไรให้มีประสิทธิภาพ
ความแตกต่างของแบรนด์ ผลิตภัณฑ์ รวมถึงกลุ่มเป้าหมายนั้นส่งผลต่อการทำโฆษณาที่แตกต่างกัน แน่นอนว่าการทำ Facebook Ads เองก็เช่นกัน DIGITORY จึงขอสรุปการทำโฆษณาบน Facebook ที่เราลองทำแล้วพบว่าเวิร์คกับธุรกิจเป็นอย่างมาก จะมีอะไรบ้างมาดูกัน!
1. การเลือกกลุ่มเป้าหมาย
ข้อสำคัญที่หลายคนมองข้ามไป เพราะการกำหนดกลุ่มเป้าหมายมีส่วนช่วยให้โฆษณา Facebook นำเสนอต่อผู้คนที่แบรนด์ต้องการขายมากที่สุด ลองคิดเล่น ๆ ว่าถ้าเราทำธุรกิจเสริมความงาม แต่โฆษณาของเราดันไปปรากฎกับผู้ที่ไม่ได้สนใจกับบริการประเภทนี้ นอกจากจะเสียเวลาในการโฆษณาแล้ว แบรนด์ยังเสียเงินโดยใช่เหตุอีกด้วย
การกำหนดเป้าหมายที่ผิดพลาด หรือวิเคราะห์กลุ่มเป้าหมายผิดเป้าทำให้หลายคนถาม DIGITORY ว่าทำ Facebook Ads ตั้งนานแล้วไม่มีคนทักมา ทำไมคอนเทนต์นี้ไม่ดีหรือ ทำไม Interactive น้อยจัง ปัญหาจริง ๆ อาจเป็นการตั้ง Target Group ไม่ตรงก็ได้
ซึ่งการเลือกกลุ่มเป้าหมายในโฆษณา Facebook นั้น สามารถกำหนดเป้าหมายได้ดังนี้
- Location ที่ตั้ง
- Age อายุ
- Gender เพศ
- Interests ความสนใจ
- Relationship Status สถานะความสัมพันธ์
- Languages ภาษา
- Education การศึกษา
ขอยกตัวอย่างธุรกิจเสริมความงาม ประเภทตกแต่งความงามบนใบหน้า ให้บริการในพื้นที่กรุงเทพมหานครและเขตปริมณฑล สามารถเลือก Target Group ได้ดังนี้
- Location – กรุงเทพมหานครและจังหวัดใกล้เคียง
- Age – 30 ถึง 40 ปี
- Gender – หญิง
- Interests – ความสวยความงาม, การดูแลสุขภาพ หรือ ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้าหน้า เป็นต้น
- Relationship Status – โสด
- Languages – ไทย
- Education – ปริญญาตรี
จากตัวอย่างข้างกัน เชื่อว่าเพื่อน ๆ คงจะเห็นภาพชัดเจนมากยิ่งขึ้นเกี่ยวกับการเลือกกลุ่มเป้าหมายในการทำโฆษณา และสามารถนำข้อมูลจากตัวอย่างไปประยุกต์กับธุรกิจของเพื่อน ๆ กันได้เลยนะคะ
2. ตั้งงบประมาณให้เหมาะสม
Facebook Ads สามารถกำหนดงบประมาณให้เหมาะกับแคมเปญโฆษณาของเราได้ ดังนี้
งบประมาณต่อวัน (Daily Budget) เมื่อเราใส่เงินลงไปในระบบแล้ว Facebook จะเฉลี่ยงบประมาณให้ใกล้เคียงกันในแต่ละวัน
งบประมาณตลอดอายุการใช้งาน (Lifetime) ตลอดเวลาของแคมเปญจะใช้งบประมาณที่เรากำหนดไว้ในการผลักดันโฆษณา หมายความว่าแต่ละวันจะใช้งบประมาณไม่เท่ากัน แต่จะบริหารงบโฆษณาให้เราจนจบแคมเปญที่กำหนด
จะเห็นได้ว่า Budget ทั้งสองนั้นแตกต่างกันขึ้นอยู่กับแคมเปญโฆษณาของเรานั้นจุดประสงค์เป็นแบบใดนั่นเอง
3. Campaign Bid Strategy บน Facebook Ads
Bid Strategy คนที่ทำ Facebook Ads บ่อย ๆ คงคุ้นชินกับสิ่งนี้ แต่สำหรับมือใหม่เราขออธิบายให้เข้าใจง่าย คือ รูปแบบการทำโฆษณาบน Facebook จะเป็นการประมูลแข่งขันเพื่อนำเสนอโฆษณาไปยังกลุ่มเป้าหมายที่เราต้องการ ซึ่งเจ้า Bid Strategy จะเป็นการกำหนดกลยุทธ์ในการประมูลแข่งขันกับผู้อื่น และแต่ละตัวเลือกจะให้ผลลัพธ์ที่แตกต่างกันออกไป เช่น
การประมูลตามการใช้จ่าย (หรือ Spend-based bidding)
ตัวนี้ Facebook จะประมวลผลลัพธ์เอง (โดยที่เราไม่ต้องตั้งค่า) เหมาะสำหรับมือใหม่ที่ยังไม่รู้ราคา Bid หรือธุรกิจที่ไม่มีข้อมูลการทำโฆษณาในอดีตที่เพียงพอ สำหรับมือใหม่แนะนำให้เริ่มด้วยตัวนี้ก่อนค่ะ เพื่อให้เราทราบข้อมูลเบื้องต้นของแคมเปญโฆษณาของเรา
การประมูลตามเป้าหมาย (หรือ Goal-Based Bidding)
ตัวนี้จะเป็นการประมูลเพื่อให้ได้ต้นทุนต่อผลลัพธ์ (หรือ Cost per Result Goal) ใกล้เคียงตามที่เรากำหนดไว้มากที่สุด ซึ่งบางครั้งราคาก็อาจสูงกว่าต้นทุนหรือต่ำกว่าต้นทุนก็ได้
การประมูลแบบกำหนดเอง (หรือ Manual Bidding)
ตัวนี้คือการกำหนดราคาประมูลสูงสุดที่เรารับได้ (หรือ Bid Cap) เหมาะกับคนที่ต้องการควบคุมงบประมาณด้วยต้นทุนต่อผลลัพธ์ที่เรารับได้
จะเห็นได้ว่าการทำแคมเปญโฆษณามีจุดประสงค์ที่แตกต่างกัน ถ้าเราอยากเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายแบบเจาะจง ก็ควรเลือกให้เหมาะสมกับข้อมูลที่มีหรือปรับใช้ตามความต้องการของเรา
4. โฆษณาด้วยรูปภาพและข้อความที่ดึงดูด
เคยลองสังเกตกันไหมคะ เมื่อเพื่อน ๆ เล่น Facebook รูปภาพที่เล่าเรื่องได้น่าสนใจ มีความสวยงามจะสามารถดึงดูดผู้คนได้เป็นอย่างมาก และถ้าเราสามารถเล่าเรื่องผ่านรูปภาพได้สนุกหรือให้ผู้คนมีอารมณ์ร่วมก็จะยิ่งทำให้โฆษณาชิ้นนั้นน่าสนใจมากขึ้น
กลับกันถ้าแบรนด์คิดแผนโฆษณามาอย่างดีทั้งกลุ่มเป้าหมาย ทั้งงบประมาณ แต่การออกแบบรูปภาพนั้นไม่ดึงดูดสายตาเอาเสียเลย ไม่ว่าจะเป็นข้อความที่ไม่ดึงดูด โทนสีที่ไม่เข้ากัน โฆษณาชิ้นนั้นก็อาจจะไม่ประสบความสำเร็จ เพราะสาเหตุจากรูปภาพที่ไม่น่าสนใจก็เป็นได้
นอกจากนี้ DIGITORY มีเคล็ดลับทำแบนเนอร์โฆษณาบน Facebook ให้น่าสนใจที่เราใช้บ่อย ๆ นั่นคือ
- Attention เปิดประโยคโฆษณาบรรทัดแรกให้น่าสนใจ ทั้งข้อความบนรูปภาพ และข้อความบน Facebook Post
- Interest อธิบายสั้น ๆ ถึงประโยชน์ที่สำคัญของบริการ แบบรวบรัด เข้าใจง่าย และดึงดูด
- Desire สร้างข้อความที่ทำให้ผู้คนต้องการ หรือสนใจมากขึ้นตัวอย่างเช่น โปรโมชั่นถึงวันที่, จำกัดสิทธิ์ 50 ท่านแรก เป็นต้น
- Action กระตุ้นการตัดสินใจด้วย Call To Action เช่น สมัครฟรี, ปรึกษาฟรี, ทดลองเรียนฟรี, คลิกเลย, สมัครรับข้อมูล เป็นต้น
5. วิเคราะห์ผลลัพธ์ Facebook Ads
ท้ายที่สุดของการทำโฆษณาบน Facebook ที่ทำมาแสนยากเย็น จุดตัดสินสุดท้ายคือ “ผลลัพธ์” ว่าที่ผ่านมานั้นเดินทางมาถูกต้องหรือไม่ เช่น กลุ่มเป้าหมาย งบประมาณ Bid Strategy รวมถึงคอนเทนต์ มีผลตอบรับเป็นอย่างไร มีคนกดไลก์ กดแชร์ คอมเมนต์หรือไม่ หรือเป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่เราตั้งใจไว้ไหม เพื่อน ๆ สามารถดูผลลัพธ์ดังกล่าวได้ที่ Facebook Ads Manager กันได้เลย
หลังจากนั้นก็นำมาวิเคราะห์หรือจัดทำรายงานเลยค่ะ ว่าโฆษณาตัวนี้มีผลลัพธ์ไม่ดีเพราะอะไร โฆษณาตัวนี้ผลลัพธ์ดีเพราะอะไร เพื่อให้ทีมงานที่มีส่วนร่วมในการโฆษณา พัฒนาจุดแข็งและแก้ไขจุดบกพร่องกันต่อไป
สำหรับการทำ Facebook Ads ที่ DIGITORY แนะนำ คือ ทำความเข้าใจกระบวนการทำงานของ Facebook อัลกอริทึมก่อน จากนั้นก็เริ่มทำโฆษณาโดยมีการกำหนดกลุ่มเป้าหมายในแต่ละแคมเปญ หลังจากนั้นก็กำหนดและควบคุมงบประมาณ นำเสนอให้ดึงดูดและน่าสนใจผ่านรูปภาพและข้อความ และสุดท้ายก็ทำการวิเคราะห์ผลลัพธ์ที่ได้ พร้อมปรับปรุงแคมเปญโฆษณาให้ดียิ่งขึ้นต่อไปค่ะ
สุดท้ายนี้ ขอขายของสักเล็กน้อย DIGITORY มีคอร์สเรียนออนไลน์ Facebook Advertising เจาะลึกทุกขั้นตอนที่คนลงโฆษณาควรรู้ กดเข้าไปอ่านรายละเอียดที่แบนเนอร์ด้านล่างหรือทักมาสอบถามเราที่ LINE Official กันได้เลยนะคะ ทดลองเรียนฟรีได้แล้ววันนี้ เรียนจบรับใบเซอร์ รับประกันความเข้มข้น เรียนจบยิงแอดบน Facebook เป็นทันที