หากคิดจะขายของออนไลน์แล้วละก็ สิ่งสำคัญที่ต้องคำนึงถึงเป็นอันดับต้นๆ นอกจากช่องทางขาย ก็คือ “ภาพสินค้า” เพราะภาพสินค้าที่ดี จะสร้างความโดดเด่น และดึงดูดความสนใจจากลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ดังนั้น ภาพสินค้าที่สวยงามและแสดงรายละเอียดชัดเจน รวมถึงแสดงให้เห็นไลฟ์สไตล์ของสินค้านั้นๆ ได้มากที่สุด ย่อมทำให้ลูกค้าอยากซื้อ และเกิดความมั่นใจที่จะตัดสินใจซื้อได้ด้วย
เพราะลูกค้าไม่สามารถสัมผัสสินค้าจริงได้ ภาพถ่ายสินค้าจึงเป็นตัวช่วยสำคัญในการขายของออนไลน์
ภาพสินค้าที่สวยงาม แสดงรายละเอียดสินค้าได้ชัดเจน และสื่อถึงไลฟ์สไตล์ที่สอดคล้องระหว่างลูกค้าและสินค้าได้ดี จะช่วยเพิ่มโอกาสในการตัดสินใจซื้อสินค้าออนไลน์ได้เป็นอย่างดี
วันนี้เรามี 5 เทคนิคถ่ายภาพสินค้าให้สวยโดนใจ เพิ่มยอดขายปังๆ มาฝากกัน
ใช้แสงธรรมชาติ
ปัญหาของภาพสินค้าส่วนใหญ่คือมักจะดูมืด ไม่สว่างสดใสอย่างที่ควรจะเป็น วิธีแก้ง่ายๆ ก็คือ การถ่ายภาพโดยใช้แสงธรรมชาติ ซึ่งแสงธรรมชาติจะให้สีที่สวยงามตรงกับสีจริงของสินค้ามากที่สุด
โดยช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับการใช้แสงธรรมชาติคือ 07.00-09.00 น. และ 16.00-18.00 น. เพราะเป็นช่วงที่แสงไม่แรงจนเกินไปและมีปริมาณแสงที่เพียงพอต่อการถ่ายภาพ
ดังนั้น ถ่ายภาพสินค้าครั้งต่อไปลองถ่ายนอกอาคาร หรือถ้าอยู่ในห้องก็เปิดหน้าต่างทุกบาน หรือขยับไปใกล้ๆ หน้าต่าง เพื่อรับแสงให้ได้มากที่สุด
ใช้พื้นหลังสีขาว หรือสีเรียบๆ
หากอยากให้สินค้าดูโดดเด่น ลองหากระดาษหรือผ้าสีขาวมาใช้เป็นพื้นหลัง สีขาวจะช่วยสะท้อนแสงทำให้สินค้าดูโดดเด่น และช่วยให้ภาพดูสว่างสดใสมากขึ้น แต่หากสินค้ามีสีโทนขาวครีม อาจใช้พื้นหลังเป็นสีพื้นอื่นๆ เพื่อขับให้สินค้าดูโดดเด่นขึ้นมาได้เช่นกัน
สำหรับใครที่เริ่มเบื่อกับฉากสีพื้นเรียบๆ ลองเปลี่ยนเป็นพื้นไม้ พื้นลายหินอ่อน ได้ โดยปรับให้เข้ากับลักษณะของสินค้า และที่สำคัญพื้นหลังต้องไม่แย่งความสนใจไปจากสินค้าซึ่งเป็นจุดเด่นของภาพ
ใช้พร็อพตกแต่ง
นอกจากภาพตัวสินค้าที่ชัดเจนทุกมุมแล้ว การมีพร็อพที่สอดคล้องหรือเชื่อมโยงกับสินค้าจะช่วยทำให้ภาพดูน่าสนใจมากยิ่งขึ้น อาจจะเป็นดอกไม้ ใบไม้ ผลไม้ จานชามไม้ หรืออาจใช้วัตถุดิบที่เป็นตัวตั้งต้นของสินค้านั้นๆ ได้
ดังเช่น ตัวอย่างภาพรองเท้าสีเหลืองภาพนี้ที่ใช้ผลเลมอนเป็นพร็อพตกแต่งมาสื่อถึงสีสันที่สดใสของรองเท้า ซึ่งช่วยให้ภาพดูไม่น่าเบื่อ สื่อถึงบุคลิกของแบรนด์และไลฟ์สไตล์ของสินค้าได้เป็นอย่างดี
ถ่ายซูมให้เห็นรายละเอียด
นอกจากจะถ่ายภาพสินค้าตามเทคนิคที่กล่าวไปก่อนหน้านี้แล้ว อย่าลืมถ่ายซูมให้เห็นรายละเอียดของสินค้าด้วย ซึ่งรายละเอียดยิ่งชัดเท่าไรก็ยิ่งทำให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อสินค้าได้ง่ายขึ้นมากเท่านั้น
เช่น การถ่ายภาพอาหาร การซูมให้เห็นส่วนประกอบของอาหารจะทำให้รู้สึกน่ารับประทานมากขึ้น การถ่ายภาพกระเป๋าทั้งด้านนอก ด้านใน ซูมให้เห็นการตัดเย็บต่างๆ ก็จะยิ่งทำให้เห็นฟังก์ชันการใช้งานและคุณภาพการตัดเย็บที่ดีของกระเป๋าได้
ถ่ายให้เห็นไลฟ์สไตล์และการใช้งาน
ลองเพิ่มความน่าสนใจของภาพด้วยการใช้คนมาประกอบการถ่ายภาพสินค้า โดยถ่ายให้เห็นลักษณะการใช้งานของสินค้า แสดงให้เห็นไลฟ์สไตล์เมื่อเวลาที่ลูกค้าใช้สินค้าของเรา
การถ่ายภาพลักษณะนี้จะทำให้ภาพมีเรื่องราวและมีชีวิตชีวามากขึ้น ลูกค้าจะสามารถเห็นภาพการใช้งานได้ชัดเจน สามารถกะขนาดสินค้าได้คร่าวๆ และยังช่วยกระตุ้นให้เกิดความต้องการซื้อได้เป็นอย่างดี