หลายคนที่ทำธุรกิจออนไลน์ ย่อมต้องการให้เว็บไซต์ของเราติดอันดับบน Google เพราะการเจอเว็บไซต์ของเราเป็นเว็บแรก ๆ จะช่วยเพิ่มอัตราการกดคลิกมาเยี่ยมชมเว็บไซต์ได้สูง รวมไปถึงช่วยเพิ่มโอกาสในการสร้างยอดขายได้อีกด้วย ซึ่งเทคนิคง่าย ๆ ที่ช่วยให้เว็บไซต์ของเราสามารถติดอันดับบน Google ได้ ก็คือ การทำ SEO นั่นเอง
SEO คืออะไร
SEO ย่อมาจาก Search Engine Optimization หมายถึง การปรับแต่งเว็บไซต์ รวมถึงการปรับแต่งเนื้อหาภายในเว็บไซต์ เพื่อให้ติดอันดับบน Google เมื่อมีการค้นหาด้วย Keyword ที่ตรงกัน เกี่ยวข้อง หรือมีความสอดคล้อง กับ Keyword ที่เรากำหนดไว้ โดยไม่ได้ทำการซื้อโฆษณา ข้อดีของการทำ SEO คือ สร้างความน่าเชื่อถือได้ดี ไม่เสียค่าใช้จ่ายในการทำโฆษณา
หลักการทำ SEO เบื้องต้น
1.เว็บไซต์ดี มีคุณภาพ
การทำ SEO เริ่มตั้งแต่การปรับแต่งโครงสร้างของเว็บไซต์ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่ Google กำหนด โดยเริ่มตั้งแต่
- Sitemap เข้าใจง่าย
Sitemap คือ เเผนผังโครงสร้างเว็บไซต์ของเรา ที่ทำให้ผู้เข้าชมเว็บไซต์สามารถเข้ามาดูได้ว่าเว็บไซต์ของเรามีหน้าใดบ้าง สามารถคลิกเข้าถึงหน้าต่าง ๆ ได้อย่างไร ซึ่งการจัดโครงสร้างของเว็บไซต์ให้ง่ายต่อการเข้าถึงและมีความเชื่อมโยงในทุก ๆ หน้า จะช่วยให้ระบบอัลกอริทึมของ Google สามารถเก็บข้อมูลของเว็บไซต์เราได้ง่ายขึ้น
- ควรมี Keyword อยู่ในชื่อเว็บไซต์และทุก URL
ควรตั้งชื่อเว็บไซต์ให้ตรงหรือสอดคล้องกับชื่อแบรนด์ของธุรกิจ และในทุก URL ควรมี Keyword ที่เราต้องการทำ SEO อยู่ โดยควรใช้คำภาษาอังกฤษมากกว่าตัวเลขหรือภาษาไทย เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกในการทำงานของ Google ในการเก็บข้อมูลและประมวลผล
- สามารถใช้งานได้ดีบนโทรศัพท์มือถือ (Mobile friendly)
เพราะปัจจุบันผู้คนส่วนใหญ่ใช้งานจากโทรศัพท์มือถือเป็นหลัก ดังนั้นการปรับปรุงเว็บไซต์ให้รองรับการแสดงผลบนโทรศัพท์มือถือย่อมมีผลที่ดีกว่า นอกจากจะสร้างประสบการณ์ที่ดีต่อผู้ใช้แล้ว ยังมีผลดีต่อการทำ SEO เพราะระบบมักเลือกเว็บไซต์ที่รองรับการแสดงผลบนโทรศัพท์มือถือให้มีอันดับที่ดีกว่าเสมอ
- ความเร็วในการโหลด
เป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เพราะ Google ให้ความสำคัญกับประสบการณ์ที่ดีของผู้ใช้ หากเว็บไซต์ของเราโหลดช้า หรือนานเกินไป ก็อาจทำให้ผู้ใช้กดปิดเว็บไซต์ของเราไปเสียก่อน ส่งผลให้เว็บไซต์ของเราโดนตัดคะแนนลงได้ ซึ่งเราสามารถแก้ไขได้ในเบื้องต้น เช่น การอัปโหลดรูปภาพที่มีความเหมาะสม มีขนาดไม่ใหญ่จนเกินไป เป็นต้น
- เว็บไซต์มีความปลอดภัย
เว็บไซต์ที่จะติดอันดับ Google จะต้องติดตั้ง HTTPS เพื่อช่วยรักษาความปลอดภัยของผู้ใช้งาน ซึ่งเว็บโฮสติ้งส่วนใหญ่มักมีบริการนี้มาให้ แต่หากเว็บไซต์ของเรายังไม่มีก็สามารถติดตั้งได้ฟรี โดยหลังจากที่ติดตั้ง SSL แล้วโดเมนของเราจะเปลี่ยนจาก HTTP เป็น HTTPS ทันที
2.คอนเท้นท์ดี มีคุณภาพ
- สร้างคอนเท้นท์ที่มีประโยชน์
เพราะหลักการสำคัญของ Google คือการประมวลผลลัพธ์ที่เกี่ยวข้องหรือสอดคล้องกับความต้องการของผู้ใช้งาน ดังนั้นเราจึงควรสร้างสรรค์คอนเท้นท์ที่ตรงกับความต้องการ และมีประโยชน์ต่อผู้ใช้ มากกว่าคอนเท้นท์ที่เน้นขายสินค้าเพียงอย่างเดียว เช่น หากเราขายแชมพูสมุนไพร ก็ควรมีคอนเท้นท์ที่ให้ความรู้เกี่ยวกับวิธีดูแลเส้นผมและหนังศีรษะ หรือเทคนิคการดูแลไม่ให้ผมขาดร่วง เป็นต้น
- มี Keyword ที่เกี่ยวข้อง
สิ่งสำคัญในการทำคอนเท้นท์คือการมี Keyword ที่เกี่ยวข้องกับสิ่งที่คนจะค้นหา และตรงกับสินค้าหรือบริการของเราด้วย โดยควรใส่ Keyword ไว้ในชื่อเรื่อง ย่อหน้าแรกของบทความ และควรมีอยู่ในทุก ๆ ย่อหน้า โดยกระจายอยู่ในส่วนต่าง ๆ ของบทความอย่างเหมาะสม และควรตั้งชื่อภาพประกอบด้วย Keyword ที่เกี่ยวข้องด้วยเช่นกัน เพื่อเพิ่มโอกาสในการติดอันดับบน Google
- จัดโครงสร้างให้ดี ใส่ Keyword ให้เหมาะสม
แม้การมี Keyword จะเป็นสิ่งสำคัญในการทำ SEO แต่การใส่ Keyword เยอะเกินไป จนอ่านแล้วไม่รู้เรื่อง ก็อาจทำให้ Google มองว่าเป็น Spam ได้เหมือนกัน ซึ่งในส่วนนี้ เราสามารถติดตั้งปลั๊กอิน หรือตัวช่วยอื่น ๆ เช่น Yoast SEO (ในกรณีใช้ WordPress) เพื่อช่วยคำนวณความเหมาะสมของ Keyword ได้
นอกจากนี้ ยังควรแบ่งโครงสร้างของบทความให้อ่านง่าย เช่น มีหัวข้อใหญ่ มีหัวข้อย่อย มีการเน้นคำหนา เพื่ออำนวยความสะดวกให้ทั้งผู้อ่านและระบบการทำงานของ Google ด้วย
3.เพิ่มจำนวนคนเข้าชมเว็บไซต์
- ทำ Backlink
Backlink คือ การทำลิงก์เชื่อมโยงไปยังเว็บไซต์อื่น ๆ เช่น การให้เครดิต หรือการใส่อ้างอิงข้อมูลจากเว็บไซต์ต่าง ๆ ซึ่งการมี Backlink กลับมายังเว็บไซต์ของเรา ทำให้เกิด Traffic บนเว็บไซต์ได้ เมื่อมีคนเข้าชมเว็บไซต์เรามากขึ้น ก็จะส่งผลต่ออันดับในการค้นหาด้วย เพราะ Google จะมองว่าเว็บไซต์เราเป็นเว็บไซต์ที่มีคุณภาพ มีคนพูดถึง และคลิกเข้ามาเยี่ยมชม
แต่การทำ Backlink ก็มีข้อควรระวัง เพราะหากเราสร้าง Backlink บนเว็บไซต์ที่ไม่มีคุณภาพ คะแนนอันดับเว็บไซต์ของเราก็จะลดลงตามไปด้วย ดังนั้นจึงควรเลือกเว็บไซต์ที่มีอันดับ Ranking สูงกว่าเว็บของตัวเองในการสร้าง Backlink
ได้รู้พื้นฐานในการทำ SEO เพื่อให้เว็บไซต์ติดอันดับบน Google กันไปแล้ว อย่าลืมนำเอาไปปรับใช้กับเว็บไซต์ของทุกคนกันได้นะคะ ซึ่งนี่เป็นเพียงหลักการทำ SEO เบื้องต้นเท่านั้น หากอยากรู้รายละเอียดเพิ่มเติมก็สามารถทักมาสอบถาม DIGITORY ได้เลยค่ะ
ถ้าไม่อยากพลาดข่าวสารการตลาดออนไลน์ อัพเดทเทรนด์ และโปรโมชันพิเศษ
ติดตาม LINE: @digitorystyle ได้เลย