Resume เป็นเหมือนเอกสารสรุปการทำงาน ทักษะ ประวัติส่วนตัวแบบย่อ เพื่อใช้สมัครงาน Resume ที่ดีควรมีข้อมูลที่ครบถ้วน น่าสนใจ และสามารถดึงดูดเหล่านายจ้างหรือ HR ได้ เมื่อเราทำเรซูเม่ให้น่าสนใจแล้ว ก็จะมีการติดต่อกลับมาเพื่อนัดสัมภาษณ์เป็นขั้นตอนต่อไป
สำหรับในบทความนี้เราจะมาสอนทำ Resume โดยใช้ Canva กัน เพราะเจ้า Canva ในปัจจุบันสามารถออกแบบงานเอกสารหรืองานนำเสนอ รวมถึงการทำกราฟิกได้อย่างน่าสนใจ แม้ว่าเราจะไม่มีทักษะการออกแบบก็สามารถใช้โปรแกรมนี้ได้ไม่อยากเลย แต่ก่อนที่เราจะเริ่มใช้ Canva ในการทำ Resume เราต้องรู้องค์ประกอบหลักที่ควรมีใน Resume ของเราก่อน
องค์ประกอบของ Resume ควรมีดังนี้
1. ข้อมูลส่วนตัว
ชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ E-mail ลิงก์โปรไฟล์โซเชียลมีเดียหรือเว็บไซต์ของเรา (ถ้ามี)
สำหรับ E-Mail การสมัครงาน เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับโปรไฟล์ของเราได้มากขึ้น
- แนะนำ สำหรับการสมัครงาน ควรใช้ชื่อ E-mail ทางการ เช่น jirayu.ts@gmail.com , pakorn.cb@gmail.com เป็นต้น
- หลีกเลี่ยง E-mail ที่เคยใช้ในอดีตกาลเช่น Joyzasudzab@gmail.com หรือ Joyza669966699@gmail.com
2. ประวัติการศึกษา
ประวัติการศึกษา หลักสูตรที่เรียน และเกรดเฉลี่ย เริ่มตั้งแต่ระดับการศึกษาที่จบล่าสุดไปจนถึงระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย ปวช. หรือปวส. ก็เพียงพอ
3. ประสบการณ์การทำงาน
ควรใส่ประสบการณ์การทำงาน รวมถึงชื่อบริษัท ตำแหน่งงาน และวันที่เริ่มงาน วันที่สุดท้ายของการทำงานของแต่ละแห่งที่เคยร่วมงานด้วย พร้อมกับอธิบายหน้าที่และความสำเร็จของเราในแต่ละตำแหน่งงาน หากมีโปรเจกต์ใดที่ทำสำเร็จอาจแนบเป็น Portfolio เพื่อประกอบการพิจารณาก็จะช่วยให้โปรไฟล์ของเราน่าสนใจมากยิ่งขึ้น
4. ทักษะต่าง ๆ
ทักษะทางเทคนิคการทำงาน Hard Skill ทักษะทาง Soft skills รวมถึงทักษะภาษา ทักษะต่าง ๆ นี้แนะนำให้ระบุระดับความสามารถของทักษะเป็นตัวอักษร ตัวอย่างเช่น สามารถใช้ภาษาอังกฤษได้อยู่ในระดับใด เราอาจระบุเป็น Fair, Good, Excellent เพื่อให้ผู้อ่าน Resume เข้าใจถึงระดับและความสามารถของเรานั่นเอง
5. ใบรับรองความรู้ หรือ Certificate
ส่วนนี้เป็นตัวการันตีความรู้ความสามารถของเราว่าสามารถทำงานในตำแหน่งงานนั้น ๆ ได้จริง หรืออาจใส่เป็นรางวัลที่ได้รับจากประสบการณ์การทำงานที่ผ่านมาก็ได้เช่นกัน
นอกจากนี้เราสามารถปรับองค์ประกอบของ Resume ให้น่าสนใจ รวมถึงเลือกรูปแบบที่เราต้องการนำเสนอผ่านเรซูเม่ของเราได้ เพราะ Canva เป็นแพลตฟอร์มที่จะช่วยให้เราออกแบบเรซูเม่ด้วยตัวเองได้ไม่ยากเลย
ขั้นตอนการทำ Resume บน Canva
1. เข้าไปที่ Canva
![Build My Resume Canva](https://digitorystyle.com/wp-content/uploads/2023/07/image1-1024x380.jpg)
เข้าไปที่ Canva หลังจากนั้นกด >> Build My Resume Canva ก็จะให้เราเริ่มสร้าง Resume ตามขั้นตอนต่อไป
2. เลือก Template Resume ที่ต้องการ
![เลือก Template Resume บน Canva](https://digitorystyle.com/wp-content/uploads/2023/07/image2-1024x436.jpg)
ต่อมาเราก็เลือก Template ที่เราต้องการ ใครอยากได้สไตล์ มูดโทนแบบใดก็สามารถเลือกได้ตามความชอบได้เลย โดยมีทั้งแบบใช้งานฟรีและแบบเสียเงิน (Pro)
3. ใส่รายละเอียดข้อมูลของเราลงไป
![ใส่รายละเอียดข้อมูลของเราลงไป](https://digitorystyle.com/wp-content/uploads/2023/07/image3-1024x594.jpg)
4. การแก้ไขข้อมูลบน Resume
![แก้ไขข้อมูลบน Resume](https://digitorystyle.com/wp-content/uploads/2023/07/image8-1024x618.jpg)
การแก้ไขข้อมูล Resume ของ Canva สามารถทำได้ง่ายดาย เพียงแค่เรากดคลิกตรงข้อมูลที่ต้องการแก้ไข Canva ก็จะแสดงเมนูบาร์ด้านบนให้เราได้แก้ไข ทั้งการลบข้อมูลเดิม เปลี่ยนฟอนต์ เปลี่ยนขนาด หรือสีตัวอักษรก็สามารถทำได้ไม่ยาก
5. Export Resume
![Canva Export Resume](https://digitorystyle.com/wp-content/uploads/2023/07/image6.jpg)
หลังจากที่เราทำ Resume เสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็สามารถ Export Resume เป็นไฟล์ PDF ได้แบบง่าย ๆ เพียงกด Share > Download > PDF Standard เพียงแค่นี้เราก็ได้ Resume เพื่อใช้ในการสมัครงานกันแล้ว
![ตัวอย่าง Resume เรซูเม่](https://digitorystyle.com/wp-content/uploads/2023/07/image7-723x1024.jpg)
รูปภาพตัวอย่างการทำ Resume ที่ทำจาก Canva ที่มีความเป็นมืออาชีพ รูปลักษณ์ทันสมัยเลยทีเดียว Template Resume ของ Canva ค่อนข้างเป็นสัดส่วนที่ชัดเจนง่ายต่อการอ่าน มีการแบ่งตัวอักษรของแต่ละหัวข้อให้เรียบง่ายน่าอ่าน พร้อมกับจัดเรียบเรียงข้อมูลประวัติส่วนตัว ทักษะต่าง ๆ ได้ชัดเจน นอกจากนี้ Canva ยังมี Template สำหรับการทำ Resume รูปแบบอื่น ๆ มากมาย สามารถเลือกตามความชอบและสไตล์ของตนเองได้เลย
ปิดท้าย DIGITORY ขอแนะนำทริคในการตั้งชื่อไฟล์ Resume ด้วยการใช้ชื่อจริงตามด้วย Resume เช่น Jirayu_resume.pdf ในส่วนนี้จะช่วยให้ HR หรือผู้ที่ดูเรซูเม่ของเราทราบว่าไฟล์นี้เป็นของผู้สมัครท่านใด หากเราตั้งชื่อเป็น Resume1 หรือ Resume2 แบบนี้ก็จะทำให้ผู้อ่านข้อมูลของเราทำงานได้ยากขึ้น อีกทั้งการตั้งชื่อไฟล์ด้วยชื่อจริงยังเป็นการแสดงถึงความเป็นมืออาชีพในการสมัครงานอีกด้วย
![คอร์สเรียนการตลาดออนไลน์ จาก DIGITORY](https://digitorystyle.com/wp-content/uploads/2023/05/footer-digitory-1024x201.jpg)