แนวคิดเรื่อง ‘ช่วงวัย’ หรือ เจเนอเรชัน เป็นสิ่งที่ถือกำเนิดขึ้นมาเนิ่นนาน และถูกนำมาใช้เพื่อเป็นมาตรวัดในการขีดเส้นแบ่งระหว่าง ‘คนรุ่นเก่า’ และ‘คนรุ่นใหม่’ ออกจากกันอย่างชัดเจน ผ่านการอ้างอิงจากนิสัย มุมมอง ความคิด วิถีชีวิต และความชอบที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นผลมาจากอิทธิพลของสังคม สภาพแวดล้อม และความเจริญก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยีในช่วงอายุที่ได้เติบโตขึ้นมา ซึ่งจะเห็นได้จากการที่เด็กในยุคนี้มีชุดความคิดและความเชื่อที่แตกต่างออกไปจากผู้ใหญ่อย่างสิ้นเชิง
โดยในตอนนี้ก็เป็นระยะเวลากว่า 10 ปีแล้ว ที่โลกของเราได้ทำความรู้จักและให้การต้อนรับเด็ก ๆ ในเจนเนอเรชันใหม่ล่าสุดอย่าง ‘เจนอัลฟ่า’ ที่เติบโตขึ้นมาในยุคที่เทคโนโลยีและสิ่งอำนวยความสะดวกในด้านต่าง ๆ พัฒนาก้าวหน้าแบบก้าวกระโดดกว่ายุคไหน ๆ ที่เคยมีมา จนทำให้เด็ก ๆ ในเจนอัลฟ่านี้ได้กลายมาเป็นที่จับตามองจากผู้คนในแวดวงต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับแวดวงการตลาด ถึงในด้านของความท้าทายในการรับมือกับความต้องการของเด็ก ๆ ในยุคใหม่นี้
ทำความรู้จักกับเจนอัลฟ่า
เจเนอเรชันอัลฟ่า (Generation Alpha) หรือ เจนอัลฟ่า คือ ช่วงวัยที่ใช้การเรียกขานถึงเด็ก ๆ ยุคใหม่ที่เกิดหรือกำลังจะเกิดในช่วงระหว่างปี พ.ศ. 2553 – พ.ศ. 2568 ซึ่งชื่อของเจนอัลฟ่านี้ ถูกพูดถึงเป็นครั้งแรกโดย Mark McCrindle นักประชากรศาสตร์ และนักวิจัยทางสังคม ชาวออสเตรเลีย ที่มีชื่อเสียงในระดับนานาชาติ ที่ได้เกิดข้อสงสัยขึ้นว่า เราจะเรียกคนรุ่นใหม่ต่อจากเจเนอเรชัน Z ว่าอย่างไรดี เพราะฉะนั้นเขาจึงได้เริ่มทำการออกสำรวจในออสเตรเลียถึงชื่อที่ทุกคนจะใช้เรียกคนรุ่นใหม่ที่เกิดตั้งแต่ปี พ.ศ. 2553 เป็นต้นไป ก่อนที่เขาจะนำชื่อของเจเนอเรชันอัลฟ่า ซึ่งเป็นข้อสรุปที่ได้จากการออกสำรวจขึ้นไปพูดบนเวที TEDx จนทำให้ชื่อของเจนเนอเรชันอัลฟ่ากลายมาเป็นที่จับตาของคนทั่วโลกนับตั้งแต่วันนั้น
โดยทั่วโลกได้มีการคาดการณ์กันว่า เจนอัลฟ่านี้จะเป็นเจนที่มีขนาดใหญ่ และมีความหลากหลายทางเชื้อชาติและวัฒนธรรมมากกว่าเจนก่อน ๆ อีกทั้งเด็ก ๆ ในเจนอัลฟ่าเหล่านี้จะมีความเฉลียวฉลาดมากที่สุดเท่าที่เคยมีมาเลยก็ว่าได้ เพราะพวกเขาเกิดและเติบโตขึ้นมาในโลกที่เทคโนโลยีได้ก้าวเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการใช้ชีวิต และมีโลกอินเทอร์เน็ตเป็นแหล่งการเรียนรู้สำคัญที่จะช่วยพัฒนาศักยภาพและเติมเต็มความรู้ให้กับพวกเขาได้อย่างไม่รู้จบ โดยจากผลการวิจัยพบว่า เด็ก ๆ เจนอัลฟ่าเริ่มต้นเรียนรู้ที่จะใช้งานเทคโนโลยีตั้งแต่วัยเด็ก ซึ่งพวกเขามีอัตราในการใช้อินเทอร์เน็ตเฉลี่ยสูงถึง 47.4% ต่อวัน และมีแนวโน้มที่จะเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่องในอนาคต
นิสัยพื้นฐานของเจนอัลฟ่า
การเติบโตขึ้นมาท่ามกลางการเปลี่ยนผ่านของเทคโนโลยีหลากหลายชนิดบนโลกนี้ทำให้เด็กเจนอัลฟ่าคุ้นเคยกับการเปลี่ยนแปลง และกล้าที่จะลงมือลองผิดลองถูกเพื่อการเรียนรู้ในสิ่งใหม่ ๆ ด้วยตนเองอยู่เสมอ โดยพวกเขาจะสามารถเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ ได้ไว และมีเซนต์ในการเซนต์ในการใช้เทคโนโลยีต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่าคนรุ่นก่อน ๆ อีกทั้งเจนอัลฟ่ายังเป็นเจนที่มีความเป็นตัวของตัวเองสูง รักอิสระเป็นอย่างมาก และสามารถใช้ชีวิตอยู่ตัวคนเดียวได้ จนทำให้ในบางครั้งพวกเขาจึงมักจะเลยการมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นไปได้ และนอกจากนี้เจนอัลฟ่ายังมีแนวโน้มที่จะเป็นคนขี้เบื่อ มีความอดทนต่ำ และอารมณ์ร้อน ซึ่งเป็นผลพวงมาจากการที่พวกเขาเติบโตขึ้นมาท่ามกลางความพร้อมกับเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่สามารถช่วยอำนวยความสะดวกและตอบโจทย์ความต้องการของพวกเขาได้อย่างรวดเร็วทันใจมาตั้งแต่เกิด
ต้องทำการตลาดแบบไหนถึงจะถูกใจเจนอัลฟ่า
หากลองนับย้อนกลับไปดูแลเวเราจะพบว่า เด็ก ๆ เจนอัลฟ่าในตอนนี้ยังเป็นแค่เพียงเด็กวัย 11 ขวบ เท่านั้น เพราะฉะนั้นแล้วการทำการตลาดกับเด็กอัลฟ่าให้ประสบความสำเร็จจึงไม่เพียงแต่จะต้องจัดหาสินค้าหรือบริการที่สามารถตอบโจทย์ความชอบและไลฟ์สไตล์ของเด็กเจนอัลฟ่าได้อย่างเดียวเท่านั้น แต่สินค้าหรือบริการเหล่านั้นยังจำเป็นต้องตอบโจทย์ในด้านของการมีคุณค่าและมีประโยชน์ต่อพัฒนาการของเด็ก ๆ เจนอัลฟ่า ซึ่งถือเป็นสิ่งที่คุณพ่อ คุณแม่ และผู้ปกครองชาวเจน Y และเจน Z ให้ความสำคัญ ในฐานะของผู้ที่มีอำนาจสูงสุดในการตัดสินใจว่าจะซื้อหรือไม่ซื้อของชิ้นนั้นหรือไม่
เพราะฉะนั้นแล้วการแสวงหาสินค้าหรือบริการที่สามารถตอบโจทย์ในด้านของการส่งเสริม Life skills ที่เพิ่มมากขึ้นให้กับเด็ก ๆ เจนอัลฟ่า อย่างเช่น ของเล่นที่ช่วยส่งเสริมและพัฒนาทักษะเกี่ยวกับ STEM (Science, Technology, Engineering, Maths) หรือทักษะของการเป็นผู้ประกอบการ ที่สามารถตอบสนองต่อความต้องการเฉพาะของแต่ละบุคคล (Customized) ที่หลากหลายของเด็ก ๆ เจนอัลฟ่า จึงถือเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้เจ้าของธุรกิจและผู้ประกอบการทุกคนสามารถวางแผนการทำการตลาดเพื่อพิชิตใจคุณพ่อคุณแม่ชาวเจน Y เจน Z และเด็ก ๆ เจนอัลฟ่าได้อย่างตรงจุดมากยิ่งขึ้น
ติดตามข่าวสารของเราได้ทาง DIGITORY