เคยคิดกันไหมว่าจะเป็นอย่างไรถ้าหากในวันหนึ่งเรามีผู้ช่วยอัจฉริยะที่สามารถช่วยทำให้การทำงาน ตั้งแต่งานเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ใช้เวลาทำเพียงแค่ไม่นาน ไปจนถึงการทำงานชิ้นใหญ่ ๆ ที่กินระยะเวลาต่อเนื่องยาวนานหลายอาทิตย์หรือหลายเดือน กลายมาเป็นเรื่องที่ง่ายและราบรื่นมากยิ่งขึ้น ? แน่นอนว่าถ้าหากในชีวิตจริงเรามีผู้ช่วยที่มาพร้อมด้วยความสามารถในการทำงานที่ครบครันมากขนาดนี้ การเรียนและการทำงานของเราทุกคนย่อมต้องกลายมาเป็นเรื่องที่สะดวกสบายและง่ายมากขึ้นกว่าเดิมอย่างแน่นอน
เพราะฉะนั้นแล้ว ด้วยเทคโนโลยีต่าง ๆ ที่ถูกพัฒนาขึ้นมาจนมีความก้าวหน้ามากขึ้นกว่าในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านนี้ ส่งผลให้ Chat GPT หรือ แชตบอตปัญญาประดิษฐ์ประเภท Artificial Intelligence (AI) จึงได้ถือกำเนิดขึ้นภายใต้แนวคิดของการเป็นผู้ช่วยคนสำคัญของมนุษย์ ที่จะสามารถพูดคุย ตอบข้อสงสัยต่าง ๆ และสนับสนุนการทำงานต่าง ๆ ของมนุษย์ได้อย่างเป็นธรรมชาติมากยิ่งขึ้น
Chat GPT คืออะไร ใช้งานอย่างไร
เชื่อว่าในนาทีนี้คงไม่มีใครไม่รู้จักกับแชตบอตอัจฉริยะอย่าง Chat GPT ที่ถูกสร้างสรรค์และพัฒนาขึ้นมาจากห้องแล็บวิจัยปัญญาประดิษฐ์ระดับโลกอย่าง OpenAI กันอย่างแน่นอน เพราะนับตั้งแต่ที่ Chat GPT ได้ถูกปล่อยออกมาให้เราทุกคนได้ทดลองใช้งานกันแบบฟรี ๆ กันเมื่อปลายเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมานั้น Chat GPT ก็ได้กลายมาเป็นกระแสที่ถูกพูดถึงกันบนโลกออนไลน์อย่างล้นหลาม และทำให้มีผู้สนใจใช้งาน Chat GPT ทะลุ 1 ล้านรายภายหลังจากที่ได้มีการเปิดตัวแชตบอตอัจฉริยะดังกล่าวเพียงแค่ 5 วันเท่านั้น จนมีคำกล่าวที่ว่า การเปิดตัวของ Chat GPT คือ สิ่งที่มีความโดดเด่นและสามารถสร้างแรงสั่นสะเทือนให้กับวงการเทคโนโลยีได้เทียบเท่ากับการเปิดตัว iPhone รุ่นแรกของ Apple ในปี ค.ศ. 2007 เลยทีเดียว
โดย Chat GPT ย่อมาจากคำทั้งหมด 2 ชุด ได้แก่ “Chat” และ “Generative Pre-trained Transformer” ซึ่งมีความหมายโดยรวมถึง โมเดลภาษาที่ถูกเขียนขึ้นมาภายใต้แนวคิดของ Deep Learning และ Natural Language Processing (NLP) จนได้ออกมาเป็น Artificial Intelligence (AI) ที่มีลักษณะคล้าย Chatbot ซึ่งมีความสามารถในการเรียนรู้ข้อมูลได้อย่างมหาศาล ก่อนที่จะนำข้อมูลทั้งหมดเหล่านั้นมาทำการวิเคราะห์และประมวลผล เพื่อตอบคำถามและข้อสงสัยให้กับผู้ใช้งานได้อย่างครอบคลุมในหลาย ๆ แง่มุม ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของการให้ข้อมูลต่าง ๆ การตอบอีเมล การเขียนเรียงความ การเขียนโปรแกรมเบื้องต้น การแก้โจทย์คณิตศาสตร์ การบอกสูตรอาหาร การแต่งเพลง หรือแม้กระทั่งการเล่นมุกตลกก็ตาม
Chat GPT ทำอะไรได้บ้าง
อย่างที่ได้กล่าวไปในข้างต้นว่า Chat GPT คือ แชตบอตอัจฉริยะที่มีการผสมผสานเทคโนโลยี AI เข้าไป เพราะฉะนั้นแล้วหนึ่งในหน้าที่หลักที่สำคัญที่สุดของ Chat GPT คือ การเขียนข้อความเพื่อตอบทุกคำถามที่ผู้ใช้งานได้ถามไป ด้วยรูปประโยคที่ถูกออกแบบมาให้มีความสร้างสรรค์และมีความเป็นธรรมชาติมากที่สุดเท่าที่มนุษย์คนหนึ่งจะสามารถเลือกตอบได้
ตัวอย่างการนำ Chat GPT มาใช้งาน
ใช้วางแพลนท่องเที่ยว
ใช้ค้นหาสูตรอาหาร
ใช้แต่งเพลง
ใช้เขียนบทความ SEO
Chat GPT เสียค่าใช้จ่ายในการใช้บริการหรือไม่
โดยทั่วไปแล้ว การใช้งาน Chat GPT จะสามารถใช้งานได้ทั้งแบบฟรีและมีค่าบริการ โดยการใช้งานทั้ง 2 รูปแบบจะมีความแตกต่างกัน ดังนี้
- บัญชีแบบฟรี จะไม่สามารถใช้งานได้หากมีผู้ใช้งานเป็นจำนวนมาก อีกทั้งระบบการทำงานยังไม่ค่อยเสถียรมากนัก
- บัญชี ChatGPT Plus เป็นบัญชีที่คิดค่าบริการเดือนละ 20 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 700 บาท ซึ่งจุดเด่นของบัญชีในรูปแบบดังกล่าวนี้ คือ การใช้งานที่ไม่จำกัดในทุกช่วงเวลาแม้ว่าจะเป็นช่วงที่มีผู้ใช้งานจำนวนมากก็ตาม อีกทั้งระบบการ ทำงานยังมีความรวดเร็วและแม่นยำมากกว่า
ข้อดีและข้อเสียของการใช้งาน Chat GPT
Chat GPT คือ เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ที่ถูกโปรแกรมขึ้นมาให้สามารถเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ ได้ด้วยตนเองผ่านวิธีการที่เรียกว่า Reinforcement Learning from Human Feedback หรือ RLHF จนทำให้ Chat GPT สามารถตอบคำถามได้อย่างต่อเนื่อง รวมถึงสามารถลอกเลียนบทสนทนา หรือแม้แต่ปฏิเสธคำขอที่ไม่เหมาะสมได้ เพราะฉะนั้นแล้วในปัจจุบันนี้ Chat GPT จึงได้กลายมาเป็นแชตบอตอัจฉริยะที่มีบทบาทที่สำคัญในการเป็นผู้ช่วยของมนุษย์ในการทำสิ่งต่าง ๆ ตามที่ต้องการ เพื่อช่วยให้การทำงานที่ยากและต้องใช้เวลานานกลายมาเป็นเรื่องที่สะดวกรวดเร็วมากยิ่งขึ้น
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าระบบปัญญาประดิษฐ์ของ Chat GPT จะถูกพัฒนาขึ้นมาให้มีความสามารถมากสักเพียงไหน แต่ทว่าด้วยข้อจำกัดในด้านของระยะเวลาในการอัปเดตข้อมูลและการฝึกฝน Chat GPT ให้สามารถประมวลผลและวิเคราะห์ข้อมูลต่าง ๆ ที่ถูกป้อนเข้าไปได้นั้น ก็ส่งผลให้ข้อมูลส่วนใหญ่ที่ได้มาจาก Chat GPT จึงไม่ใช่ข้อมูลแบบเรียลไทม์ และเป็นข้อมูลเก่าที่เกิดขึ้นภายในปี ค.ศ. 2021 เท่านั้น นอกจากนี้ประสิทธิภาพในการทำงานของ Chat GPT ก็ยังคงถือว่าไม่สมบูรณ์แบบมากนัก เนื่องจากข้อมูลที่ได้จาก Chat GPT ไม่ใช่ข้อมูลที่มีความถูกต้อง 100% อีกทั้งในบางครั้งคำตอบที่ได้ก็อาจจะฟังดูมีเหตุผลแต่ทว่าเวิ่นเว้อและดูไม่สมเหตุสมผลจนเกินไปนั่นเอง
การมาถึงของ Chat GPT ทำให้สายงานไหนต้องเริ่มปรับตัวกันบ้าง
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า การมาถึงของเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์อัจฉริยะที่สามารถทำงานและโต้ตอบได้ในรูปแบบที่มีความคล้ายคลึงกับมนุษย์อย่าง Chat GPT นั้น ย่อมทำให้หลาย ๆ คนเกิดความรู้สึกกังวลใจกันอยู่ไม่น้อยเลยว่า ในอนาคตอันใกล้นี้ Chat GPT จะถูกพัฒนาขึ้นไปอีกขั้นจนสามารถนำมาใช้ทำงานแทนที่มนุษย์ได้หรือไม่ ซึ่งแน่นอนว่าคำตอบนั้นอาจเป็นทั้งได้และไม่ได้ ขึ้นอยู่กับว่าเราทุกคนจะมีวิธีการเริ่มต้นเตรียมตัวและฝึกพัฒนาความรู้ความสามารถในสายงานของตนเองอย่างไร เพื่อไม่ให้ Chat GPT พัฒนาแซงหน้าเราไปได้ ลองมาดูไปพร้อม ๆ กันเลยว่า จะมีสายงานไหนที่จำเป็นจะต้องเริ่มปรับตัวในยุคของ Chat GPT กันบ้าง
Content Creator
แม้ว่าสายอาชีพในเชิงสร้างสรรค์อย่าง Content Creator จะเรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในสายอาชีพที่ได้รับผลกระทบจากทักษะในการเขียนบทความ การเขียนคำโฆษณา รวมถึงการแปลภาษาของ Chat GPT อยู่ไม่น้อย แต่ถึงอย่างนั้นหนึ่งในสิ่งที่ทำให้ชิ้นงานจากเหล่าบรรดา Content Creator ยังคงมีความได้เปรียบมากกว่าชิ้นงานที่ได้จาก Chat GPT นั่นก็คือความถูกต้องแม่นยำของข้อมูล และความมีอารมณ์ขันในแบบฉบับของมนุษย์ที่เทคโนโลยี AI ไม่สามารถมีได้ เพราะฉะนั้นแล้วหาก Content Creator ทุกคนหมั่นเรียนรู้ทักษะใหม่ ๆ และไม่หยุดที่จะพัฒนาตนเองอยู่เสมอ ก็จะยิ่งทำให้สายอาชีพดังกล่าวนี้ไม่มีวันถูก Chat GPT แทนที่ได้อย่างแน่นอน
Web Developer
อีกหนึ่งความอัจฉริยะที่เราสามารถพบเห็นได้จาก Chat GPT คือ การเป็นสุดยอดนักเขียนโค้ดและนักเขียนโปรแกรมที่สามารถช่วยเขียนโปรแกรมต่าง ๆ ขึ้นมาใหม่ตามที่ผู้ใช้งานต้องการ ตลอดจนสามารถช่วยแก้ไขข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นในระหว่างการเขียนโปรแกรมได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ถึงอย่างนั้น Chat GPT ก็ไม่ใช่เทคโนโลยีที่จะสามารถมาแย่งงานของ Web Developer หรือ Programmer ได้แบบ 100% เพราะเบื้องหลังความเป็นอัจฉริยะในการเขียนโค้ดของ Chat GPT นั้นจำเป็นที่จะต้องมีผู้ที่มีความรู้พื้นฐานในการเขียนโปรแกรมหรืออัลกอริทึมต่าง ๆ มาคอยป้อนคำสั่งให้ Chat GPT สามารถเขียนโค้ดนอกเหนือไปจากโค้ดพื้นฐานที่มีอยู่ทั่วไปได้นั่นเอง เพราะฉะนั้นแล้วสำหรับสายงานของ Web Developer การหมั่นเรียนรู้ทักษะใหม่ ๆ ควบคู่ไปกับการมองหาโอกาสที่จะทำงานร่วมกับ AI ก็นับได้ว่าเป็นอีกหนึ่งทางเลือกดี ๆ ที่จะช่วยทำให้ Web Developer สามารถทำงานควบคู่ไปกับ AI ได้อย่างยั่งยืน
สรุป
แม้ว่าในปัจจุบันนี้การใช้งาน Chat GPT จะยังก่อให้เกิดข้อถกเถียงมากมายทั้งในด้านของประสิทธิภาพในการใช้งาน ความถูกต้องแม่นยำของข้อมูล ตลอดจนความเสี่ยงที่ Chat GPT จะมาแทนที่มนุษย์ แต่ทว่าในยุคสมัยที่เทคโนโลยีต่าง ๆ ได้ก้าวเข้ามามีบทบาทสำคัญต่อทั้งการดำรงชีวิตและการทำงานของเรา การนำเอา Chat GPT มาใช้งานอย่างถูกต้องในฐานะของการเป็นผู้ช่วยในการจัดระเบียบหรือวางแผนการทำงานในเบื้องต้น ก็นับได้ว่าเป็นอีกหนึ่งทางเลือกดี ๆ ที่จะช่วยลดระยะเวลาในการทำงานไปพร้อม ๆ กับการช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานให้ดีมากยิ่งขึ้น พร้อมกันนี้ Chat GPT ยังเป็นผู้ช่วยคนสำคัญที่ทำให้ชีวิตของเรามีความสะดวกสบายและสามารถหาคำตอบให้กับสิ่งต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็วมากยิ่งขึ้นตามไปด้วยนั่นเอง