การทำ Live Video หรือถ่ายทอดสดผ่านโซเชียลมีเดียแพลตฟอร์มต่าง ๆ เป็นอีกวิธีที่สร้าง Engagement ได้ดีมาก เพราะเราสามารถพูดคุยสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายได้แบบเรียลไทม์ และยังสามารถเสนอโปรโมชันพิเศษที่ในเวลาจำกัดเพื่อกระตุ้นให้เกิดความต้องการซื้อสินค้าได้ ที่สำคัญไม่จำเป็นต้องอาศัยทักษะในการทำวีดีโอ ก็สามารถทำ Live Video แบบง่าย ๆ ได้ด้วยตัวเอง
แม้การ Live Video จะทำได้ง่าย เพียงแค่มีสมาร์ทโฟนก็จริง แต่อย่าลืมคำนึงถึงปัญหาทางเทคนิคที่อาจเกิดระหว่างการ Live ได้ เช่น ภาพและเสียงไม่คมชัด แสงในวีดีโอสว่างไม่พอ ตอบคอมเมนต์ไม่ทัน ฯลฯ ซึ่งปัญหาเหล่านี้ก็อาจทำให้ผู้ชมเกิดความรำคาญและกดปิด Live ออกไปในที่สุด
ดังนั้น เรามาเตรียมความพร้อมก่อนเริ่มต้น Live Video เพื่อให้ผลงานที่ออกมาดูดีแบบมืออาชีพ ด้วยเทคนิคง่าย ๆ ต่อไปนี้
1.เตรียมอุปกรณ์ให้พร้อม
-กล้องคุณภาพดี
กล้องถือเป็นอุปกรณ์สำคัญที่สุดสำหรับการ Live Video ซึ่งปัจจุบันกล้องจากสมาร์ทโฟนหลาย ๆ รุ่น ก็มีความคมชัดในระดับดี สามารถถ่ายทอดสดได้ แต่หากมีงบประมาณมากขึ้นลองลงทุนกับกล้องดิจิตอล เช่น Mirrorless หรือ DSLR ซึ่งปัจจุบันมีให้เลือกหลายยี่ห้อ หลายราคา ข้อดีของกล้องดิจิตอล คือ ให้ภาพที่คมชัด สามารถเปลี่ยนเลนส์ได้ มุมมองในภาพจะดูมิติและน่าสนใจ
-ไมโครโฟน
โดยปกติจะมีการฝังตัวไมโครโฟนไว้กับสมาร์ทโฟน และกล้องดิจิตอลอยู่แล้ว แต่เมื่อนำมา Live คุณภาพเสียงก็จะลดลงไป เนื่องจากตัวไมโครโฟนอยู่ห่างจากแหล่งกำเนิดเสียง ทำให้คุณภาพเสียงลดลงตามไปด้วย เราจึงจำเป็นต้องมีไมโครโฟนเพื่อช่วยเพิ่มคุณภาพการรับเสียงที่ดีขึ้น โดยอาจเลือกใช้เป็นไมโครโฟนชนิดมีสาย หรือไมโครโฟนชนิดไร้สายแบบเสียบกับตัวกล้องก็ได้ ตามความเหมาะสมของสถานที่และรูปแบบการ Live
-ขาตั้งกล้อง
แม้ว่าจะเป็นการ Live ด้วยสมาร์ทโฟน เราก็จำเป็นต้องใช้ขาตั้งกล้อง เนื่องจากการใช้มือถือกล้องหรือสมาร์ทโฟนอาจทำให้เกิดการสั่นไหว หรือหากนำไปวางบนกล่องหรือโต๊ะเก้าอี้ ก็อาจจะไม่ได้มุมภาพที่เหมาะสม การใช้ขาตั้งกล้องจึงเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดในการควบคุมคุณภาพของวีดีโอ
-ไฟ
เพราะเราไม่สามารถควบคุมปริมาณแสงจากธรรมชาติได้ รวมทั้งแสงในห้องปกติก็อาจมีความสว่างไม่เพียงพอต่อการ Live ดังนั้น เราจึงควรมีไฟสำหรับเพิ่มความสว่างในระหว่างการ Live ด้วย โดยไฟสำหรับการถ่ายทำวีดีโอก็มีให้เลือกหลายแบบ ทั้งแบบ Ring Light, Box Light ซึ่งก็มีหลายขนาดและราคาให้เลือก หรือหากอยากประหยัดงบประมาณก็สามารถ DIY ด้วยตัวเองได้เหมือนกัน
– Capture Card
เป็นอุปกรณ์สำหรับใช้ดึงสัญญาณภาพและเสียงจากตัวกล้องและไมโครโฟนมายังคอมพิวเตอร์เพื่อทำ Live นั่นเอง หากขาดอุปกรณ์ตัวนี้ไป ก็จะไม่สามารถดึงสัญญาณภาพและเสียงมายังคอมพิวเตอร์ของเราได้
2.เตรียมสัญญาณอินเตอร์เน็ต
ก่อน Live อย่าลืมตรวจสอบสัญญาณอินเตอร์เน็ตของเราก่อนว่ามีคุณภาพเพียงพอต่อการ Live หรือไม่ โดยคุณภาพที่แนะนำควรมีระดับความเร็วขั้นต่ำตั้งแต่ 10 Mbps ขึ้นไป เพื่อให้คุณภาพของวีดีโอออกมาคมชัด ไม่กระตุก และดู Live ได้อย่างราบลื่น แนะนำว่าให้ติดตั้ง Wifi และใช้สัญญาณ Wifi ในการ Live จะได้ความเสถียรมากกว่าอินเตอร์เน็ตมือถือ
3.เตรียมโปรแกรมสำหรับ Live
หากอยากให้การ Live ของเราดูเป็นมืออาชีพมากขึ้น แนะนำว่าให้ใช้โปรแกรมสำหรับการ Live โดยเฉพาะ เพราะโปรแกรมเหล่านี้จะช่วยอำนวยความสะดวกให้เราในการควบคุมภาพหรือมุมกล้องต่าง ๆ ได้เหมือนกันการถ่ายทอดสดตามสถานีโทรทัศน์ ตัวอย่างเช่น โปรแกรม Wirecast สามารถใช้กล้องดิจิตอลถ่ายและส่งสัญญาณภาพมายังโปรแกรมเพื่อเผยแพร่ไปยังแพลตฟอร์มที่เราต้องการ รองรับกล้องมากกว่า 1 ตัวเพื่อการถ่ายหลาย ๆ มุม ใส่ภาพประกอบ โลโก้ และข้อความที่ต้องการได้
4.เตรียมสคริปต์
การ Live ก็เหมือนการทำคอนเท้นท์รูปแบบอื่น ๆ ที่ต้องมีการวางแผนไว้ล่วงหน้า เพื่อเตรียมพร้อมว่าช่วงไหนต้องนำเสนออะไรบ้าง การมีสคริปต์จะช่วยทำให้เราไม่พลาดลำดับงาน ไม่ลืมประเด็นสำคัญที่ต้องสื่อสารกับผู้ชม และยังช่วยให้สามารถบอกข้อมูลสินค้าและบริการได้อย่างครบถ้วน
5.เตรียมทีมงาน
แม้การ Live จะสามารถทำได้ง่าย ๆ ด้วยตัวคนเดียว แต่เราก็ไม่สามารถจัดการกับผู้ชมได้ด้วยตัวคนเดียวระหว่างการ Live จึงจำเป็นต้องมีทีมงานสำหรับช่วยดูมุมกล้อง ทีมงานช่วยดูโปรแกรมในคอมพิวเตอร์กรณี Live ผ่านโปรแกรม ทีมงานสำหรับตอบคำถามลูกค้าและอ่านคอมเมนต์ระหว่างการ Live เพื่อให้การ Live ออกมาดีที่สุด
หากเตรียมพร้อมครบทั้ง 5 สิ่งสำคัญที่ DIGITORY ได้แนะนำไปแล้วนั้น รับรองว่าการ Live ครั้งต่อไปของคุณจะต้องดูดีแบบมืออาชีพอย่างแน่นอน
ถ้าไม่อยากพลาดข่าวสารการตลาดออนไลน์ อัพเดทเทรนด์ และโปรโมชันพิเศษ
ติดตาม LINE: @digitorystyle ได้เลย