อย่างที่หลายคนทราบกันดีว่า การซื้อโฆษณา Google Ads เป็นการใช้ข้อความในการดึงดูดและกระตุ้นความสนใจกลุ่มเป้าหมาย ให้คลิกเข้ามาที่โฆษณาของเรา และสั่งซื้อสินค้าของเราในที่สุด ซึ่งบางคนอาจจะรู้สึกว่าเพียงแค่ข้อความสั้น ๆ ในหน้าการค้นหาจะดึงดูดใจได้อย่างไร ปัญหานี้ถูกแก้ไขได้ด้วย Google Ads Extension ที่ทำให้โฆษณาของเราดูน่าสนใจมากขึ้นได้
Google Ads Extension คือ ส่วนขยายของโฆษณาที่จะช่วยเพิ่มรายละเอียดให้กับโฆษณาของเรา เพราะเราสามารถเพิ่มคำที่เกี่ยวข้องกับสินค้าและบริการได้มากขึ้น ทำให้ข้อความของเราดูโดดเด่นสะดุดตา และน่าคลิกมากยิ่งขึ้น เรียกง่าย ๆ ว่าสามารถเพิ่มอัตราการคลิก หรือ CTR ได้เป็นอย่างดี
ทั้งนี้ การใช้ Google Ads Extension ไม่ได้หมายความว่าส่วนขยายจะแสดงพร้อมกับโฆษณาทุกครั้ง แต่ระบบจะคำนวณและแสดงส่วนขยายเมื่อเห็นว่าจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้โฆษณาของเราได้ และเมื่อโฆษณาของเรามีอันดับและลำดับสูงพอที่จะแสดงส่วนขยาย ซึ่ง Google Ads Extension ก็มีให้เลือกใช้งานมากมาย จะมีอะไรบ้าง ตามไปดูกันค่ะ
Google Ads Extension มีอะไรบ้าง
การเลือกใช้ Google Ads Extension นั้น DIGITORY แนะนำว่าควรเลือกให้สอดคล้องตรงตามเป้าหมาย (goal) โดยสามารถแบ่งได้เป็น 3 เป้าหมาย ดังนี้
Goal : ชักชวนให้ลูกค้ามาซื้อสินค้าหรือใช้บริการที่ร้าน
- Location extensions
คือ ส่วนขยายสถานที่ตั้ง จะแสดงข้อมูลที่อยู่ของร้าน เบอร์โทรศัพท์ และลิงก์ไปยังหน้ารายละเอียดของร้านตามที่เราได้กำหนดไว้ โดยเมื่อกดส่วนขยายนี้จะสามารถลิงก์เข้ากับ Google Map ทันที เพื่อแสดงเส้นทางการเดินทาง หรือสามารถโทรออกได้ทันทีโดยไม่ต้องไปกดเบอร์โทรศัพท์เอง
- Affiliate location extensions
คือ ส่วนขยายสถานที่ตั้งอีกรูปแบบหนึ่ง ที่จะช่วยแสดงตำแหน่งร้านหรือธุรกิจที่มีหลายสาขา ช่วยให้ลูกค้าสะดวกในการหาตำแหน่งของหน้าร้านที่อยู่ใกล้
Goal : ให้ลูกค้าติดต่อคุณ
- Call extensions
คือ ส่วนขยายการโทร เป็นการแสดงเบอร์โทรศัพท์และใส่ปุ่มโทรลงในโฆษณา เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายติดต่อมายังร้านค้าได้ทันที
- Message extensions
คือ ส่วนขยายข้อความ ที่ช่วยให้ลูกค้าสามารถส่งข้อความติดต่อกับร้านค้าได้โดยตรง
Goal : กระตุ้นลูกค้าให้ทำ Conversion ในเว็บไซต์
- Sitelink extensions
คือ ส่วนขยายไซต์ลิงก์ จะแสดงลิงก์ที่เฉพาะเจาะจงเพิ่มเติมเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการ เมื่อลูกค้ากดลิงก์ก็ไปที่หน้าเว็บนั้น ๆ ทันที เช่น ติดต่อ, เวลาทำการ, สั่งซื้อ เป็นต้น
- Callout extensions
คือ ส่วนขยายไฮไลต์ เป็นส่วนเสริมในการใส่ข้อความเพื่อกระตุ้นความสนใจ นำเสนอจุดขายแบบกระชับ เพื่อทำให้เกิด Conversion เช่น จัดส่งฟรี, บริการตลอด 24 ชม., รับประกันตลอดชีพ ฯลฯ (สามารถกระตุ้นความสนใจให้ไปใช้บริการที่หน้าร้านได้เช่นกัน) แต่ส่วนขยายนี้ไม่สามารถคลิกได้
- Structured snippet extensions
คือ ส่วนขยายข้อมูลสินค้าเพิ่มเติม จะแสดงข้อมูลที่จะเป็นประโยชน์กับผู้มีโอกาสเป็นลูกค้ามากที่สุดด้วยการแสดงร้ายการสินค้า ที่แบ่งตามประเภทหรือหมวดหมู่สินค้า ช่วยให้ลูกค้าเข้าใจได้ทันทีว่าสินค้านี้อยู่หมวดหมู่ไหน
- Price extensions
คือ ส่วนขยายแสดงราคา โดยจะแสดงหมวดหมู่ผลิตภัณฑ์หรือบริการพร้อมราคาเพื่อให้ลูกค้าสามารถเรียกดูสินค้าของคุณได้โดยตรงจากโฆษณา ส่วนขยายนี้มีให้บริการในบางประเทศเท่านั้น
Goal : ให้ดาวน์โหลดแอปพลิเคขัน
- App extensions
คือ ส่วนขยายสำหรับดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน แสดงข้อความแนะนำการติดตั้งแอปพลิเคชันที่สามารถกดดาวน์โหลดได้ทันทีทั้งระบบ Android และ iOS รวมถึงแท็บเล็ต โดยที่ได้ต้องเข้ามาค้นหาให้ Google Play หรือ App Store
ทั้งนี้ การเพิ่มส่วนขยายในโฆษณาจะไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม เพราะค่าโฆษณาจะถูกคิดเมื่อมีการคลิกโฆษณาหรือส่วนขยายของเราเท่านั้น
ดังนั้น อย่าลืมใส่ส่วนขยายเพื่อเพิ่มความโดดเด่นให้กับโฆษณาของคุณ โดยไม่จำเป็นต้องใช้ส่วนขยายทั้งหมด แต่เลือกให้สอดคล้องกับวัตถัประสงค์ โดยต้องใช้คำที่สั้น กระชับ สื่อความหมายได้ชัดเจน และไม่ใช้คำซ้ำซ้อน หรือคำที่วกไปวนมา เพราะจะทำให้ผู้ค้นหาสับสนกับสิ่งที่เราต้องการสื่อสาร และหมดความสนใจในสินค้าและบริการของเราได้
สำหรับใครที่อยากศึกษาเรื่องการซื้อโฆษณา Google Ads สามารถดูรายละเอียดได้ ที่นี่ หรืออยากปรึกษาเรื่องการเลือกใช้ Google Ads Extension ก็สามารถมาปรึกษาทีมสอน DIGITORY ได้เลยค่ะ
ถ้าไม่อยากพลาดข่าวสารการตลาดออนไลน์ อัพเดทเทรนด์ และโปรโมชันพิเศษ
ติดตาม LINE: @digitorystyle ได้เลย