ช่วงนี้หลายคนต้อง Work From Home เพื่อความปลอดภัยของสุขภาพ และลดความเสี่ยงจากการแพร่กระจายของเชื้อไวรัส COVID-19 บางคนอาจจะทำงานที่บ้านจนรู้สึกคุ้นเคยแล้ว แต่อีกหลาย ๆ คน ก็อาจจะรู้สึกว่าบรรยากาศที่บ้านยังไม่ช่วยให้ไอเดียในการทำงานโลดแล่นสักเท่าไร แถมบางคนยังรู้สึกว่านั่งทำงานที่บ้านนาน ๆ ก็รู้สึกเบื่อ อย่างนั้นเรามาจัดมุม Work From Home ของเราให้น่าทำงานมากยิ่งขึ้นกันดีกว่า
วันนี้ DIGITORY จึงมาแชร์ไอเดียในการปรับแต่ง จัดมุมทำงานที่บ้านให้สมองแล่น และดีต่อสุขภาพกันค่ะ เพราะการจัดตำแหน่งและพื้นที่ทำงานให้เหมาะสม มีผลต่อทั้งร่างกายและจิตใจในระยะยาว
ลองมาดูไอเดียดี ๆ ที่จะทำให้เรา Work From Home กันอย่างมีความสุข และมีประสิทธิภาพมากขึ้นกันเลยค่ะ
1.เลือกโต๊ะทำงาน และเก้าอี้ ที่มีขนาดเหมาะสม
การเลือกโต๊ะทำงานเป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะเป็นอุปกรณ์หลักที่เราต้องใช้ทั้งวัน โดยต้องเลือกโต๊ะที่มีความกว้างพอดีกับการใช้งาน มีพื้นที่พอสำหรับวางอุปกรณ์การทำงาน รวมถึงความสูงของโต๊ะ ต้องอยู่ในระดับเหมาะสมกับสรีระของผู้ใช้ ไม่เตี้ยหรือสูงจนเกินไป หากพื้นที่ทำงานเป็นมุมจำกัด ก็เลือกโต๊ะที่มีฟังก์ชันสำหรับจัดเก็บของได้ เช่น มีลิ้นชัก หรือชั้นวางหนังสือในตัว ก็จะช่วยให้พื้นที่ทำงานดูใช้งานได้จริง
สำหรับเก้าอี้ทำงาน ก็ควรเลือกแบบที่มีพนักพิงหลัง เพราะการนั่งทำงานยาวนานโดยไม่มีพนักพิง จะส่งผลเสียต่อกล้ามเนื้อส่วนหลังได้ จึงควรเลือกเก้าอี้แบบที่พนักพิงมีความลาดเอียงของพนักพิงเข้ากับสรีระของเรา มีความสูงของพนักพิงระดับไหล่ และปรับระดับความสูงของเก้าอี้ให้เหมาะสมพอดีกับความสูงของโต๊ะทำงาน
2.เลือกมุมทำงานที่มีแสงสว่างเพียงพอ
ควรเลือกมุมทำงานที่มีแสงสว่างจากภายนอกส่องถึงในช่วงเวลาทำงานในเวลากลางวัน เพราะแสงธรรมชาติเป็นแสงที่ดูแล้วสบายตาที่สุดในการทำงาน และหากแสงสว่างเพียงพอ เราก็อาจจะไม่จำเป็นต้องไฟเลยก็ได้ในช่วงเช้า นอกจากนี้ แสงสว่างยังมีผลต่อสายตาโดยตรง หากเลือกมุมอับ หรือมุมที่แสงไม่เพียงพอ ก็อาจจะทำให้ปวดตา และส่งผลในระยะยาวได้
หากพื้นที่ของเราจำกัด ไม่สามารถจัดสรรมุมทำงานให้มีแสงสว่างจากธรรมชาติได้ แนะนำให้เลือกหลอดไฟแบบฮาโลเจนและหลอดไฟฟลูออเรสเซนต์ เพราะแสงจากหลอดไฟทั้งสองแบบ มีความคล้ายคลึงกับแสงแดดในช่วงเวลากลางวันมากที่สุด และควรใช้โทน Cool White ระดับความสว่างประมาณ 300 – 500 ลักซ์ (Lux) เพื่อทำให้เกิดความสบายตาในขณะทำงาน และแสงไม่ผิดเพี้ยน
สำหรับผู้ที่ทำงานตอนกลางคืน ควรมีโคมไฟเพิ่มความสว่างบริเวณโต๊ะทำงาน โดยเลือกแบบที่ปรับระดับความสว่างได้ ใช้หลอดไฟโทน Cool White เพื่อความสบายตาระหว่างทำงาน
3.หาอุปกรณ์ช่วยจัดระเบียบ
นอกจากตู้ลิ้นชัก หรือชั้นเก็บเอกสารแล้ว เราควรมีอุปกรณ์สำหรับจัดระเบียบสายไฟบนโต๊ะทำงานด้วย เช่น สายพลาสติกสำหรับมัดสายไฟ กล่องแยกสายไฟ ฯลฯ เพราะสายไฟบนโต๊ะที่อยู่ระเกะระกะ ก็อาจทำให้การทำงานของเราสะดุดไปด้วย สำหรับผู้ที่ต้องใช้อุปกรณ์เครื่องเขียน หรืออุปกรณ์งานฝีมือในการทำงาน ก็ควรมีกล่องเก็บของแยกชัดเจน เพื่อความเป็นระเบียบ และหยิบจับใช้งานได้สะดวก
4.ตกแต่งด้วยสิ่งที่ชอบ สร้างแรงบันดาลใจ
เมื่อจัดระเบียบโต๊ะทำงานอย่างลงตัวแล้ว เราอาจะเพิ่มการตกแต่งด้วยกรอบรูป โปสเตอร์ ต้นไม้ หรือของตกแต่งต่าง ๆ ที่เราชอบในบริเวณใกล้เคียงกับโต๊ะทำงาน เพื่อช่วยสร้างบรรยากาศการทำงานที่น่านั่ง รู้สึกผ่อนคลาย และช่วยสร้างแรงบันดาลใจได้ในอีกทาง
ในเวลาที่รู้สึกเบื่อ หรือคิดงานไม่ออก ลองเปลี่ยนอิริยาบถมาดูสิ่งสวยงามที่เราได้ประดับตกแต่งไว้ ก็จะช่วยให้เราคลายความเครียดลงไปได้
5.จัดพื้นที่ให้ลงตัว มีสเปซให้เปลี่ยนอิริยาบถได้
สิ่งสำคัญอีกอย่างที่เราควรคำนึงในการจัดมุมทำงาน คือการจัดทุกอย่างให้ลงตัวในพื้นที่ที่จำกัด และมีฟังก์ชันการใช้งานที่ลื่นไหลสะดวกต่อการลุกเดินหยิบจับสิ่งของ และต้องไม่ลืมเว้นพื้นที่สำหรับการเปลี่ยนอิริยาบถระหว่างวัน เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิด office syndrome ด้วย
นอกจากนี้ เราควรทำความสะอาดโต๊ะ และพื้นที่ทำงานทุกวัน เพราะในแต่ละวันย่อมต้องมีเศษขยะหรือฝุ่นจากการทำงาน รวมถึงหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารบนโต๊ะทำงานด้วย เพราะเศษอาหารที่ตกหล่นอาจสะสมและทำให้เกิดเชื้อโรคต่าง ๆ ที่ส่งผลต่อสุขภาพได้
วันหยุดสุดสัปดาห์นี้ ลองจัดมุม Work From Home กันดูนะคะ