การใช้งานเครือข่ายอินเตอร์เน็ตทั้งบนคอนพิวเตอร์และมือถือมีความเสี่ยงที่จะโดนแฮกข้อมูล ต่าง ๆ ที่เราใช้งานอยู่ ทั้งข้อมูลส่วนตัว ข้อมูลในคอมพิวเตอร์ วิธีที่เราจะสามารถ ป้องกันการแฮกข้อมูล จะทำได้อย่างไร ทุกวันนี้การใช้งานอินเตอร์เน็ตที่ครอบคลุมทุกภูมิภาคทั่วโลก รวมถึงประเทศไทยทั้งการสื่อสาร และส่งต่อข้อมูลทำได้ง่ายขึ้น เกิดธุรกรรมต่าง ๆ ที่สะดวกมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการซื้อขายออนไลน์ สามารถเลือกขายหรือซื้อสินค้าจากที่ไหนก็ได้ เพียงแค่มีสมาร์ทโฟนและอินเตอร์เน็ต สะดวกมากขึ้นทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย ธุรกรรมการเงินก็เป็นอีกธุรกรรมที่อินเตอร์เน็ตสร้างความเปลี่ยนแปลงอย่างมาก โอนเงินได้ง่าย ๆ เพียงปลายนิ้ว หรือจะกดเงินสดก็ไม่ต้องใช้บัตร ATM อีกแล้ว แต่ในข้อดีทั้งหมดที่กล่าวมานี้ ก็มีข้อเสียที่เป็นช่องว่างให้กับผู้ที่ไม่ประสงค์ดีที่พยายามจะแฮกข้อมูลการใช้งานของเราเพื่อเข้าถึงการเงินและข้อมูลต่างๆ ถ้าไม่มีการระวังตัวหรือการป้องกันที่ดีก็อาจตกเป็นเหยี่อของผู้ไม่ประสงค์ดีเหล่านี้
วันนี้ DIGITORY จะมาแชร์ ว่าช่องทางไหนที่จะเปิดโอกาสให้คุณโดนแฮกได้ และ ป้องกันการแฮกข้อมูล ด้วย Google Authenticator ทำอย่างไร
ช่องทางไหนบ้างที่อาจจะทำให้ เปิดโอกาสให้ถูกแฮกข้อมูล
1.การใช้ Email ช่องทาง Email เป็นอีกทางที่ทำให้เกิดการแฮกข้อมูลขึ้นด้วยการเปิด Email ที่ไม่รู้จัก มีข้อความให้คลิกลิงก์อะไรบางอย่าง ที่อาจจะเปิดโอกาสให้ถูกโจมตีได้
2.การสมัครสมาชิกเว็บไซต์ บางทีเราไปเปิดดูเว็บไซต์บางอย่าง แล้วมีการให้สมัครเว็บไซต์ นั้น ถ้าไม่มั่นใจว่าเป็นเว็บไซต์ที่น่าเชื่อถือ ควรจะข้ามไป ไม่อย่างนั้นจะเป็นอีกช่องทางที่จะถูกล้วงข้อมูลได้
3.เป็นผู้โชคดี ได้ของฟรี อาจจะกลายเป็นผู้โชคร้ายแทนก็ได้ ส่งข้อมูส่วนตัวออกไปโดยไม่รู้ตัว อันนี้ให้จำเอาไว้เลย เว็บบราวเซอร์มีข้อความแสดงความยินดีอะไรก็แล้วแต่ กดปิดอย่างเดียว บอกได้เลย 100% คือของปลอม
4.ตั้ง password แบบคาดเดาได้ง่ายเกินไป เช่น 1234, วันเดือนปีเกิด หรือ เบอร์โทรศัพท์ ก็เป็นอีกทางที่จะทำให้ถูกแฮกข้อมูลได้
5.ไม่ติดตั้งโปรแกรมที่ช่วยตรวจสอบการถูกโจมตี ไม่ว่าจะเป็นโปรแกรมสแกนไวรัส หรือการตั้งค่ากรองข้อมูลของ firewall ถือว่ามีความเสี่ยงสูงที่จะโดนโจมตีได้ง่าย
กันไว้ก่อนดีกว่าให้เกิดเหตุ ป้องกันการแฮกข้อมูล ด้วย Google Authenticator
Google Authenticator คืออะไร
Google Authenticator แอปพลิเคชันที่ใช้สำหรับการยืนยันตัวตน 2 ชั้น (2-Factor Authentication) โดยแอพจะสร้างชุดรหัสตัวเลขแบบสุ่ม 6 ตัว ที่จะใช้ได้กับบัญชีที่ผูกไว้เท่านั้น เช่น บัญชี Facebook, Binance, BitKub เป็นต้น
ซึ่งเราสามารถเพิ่มบัญชีได้อีก โดยที่เลขแต่ละชุดจะไม่สามารถนำรหัสไปใช้กับบัญชีอื่นได้ ทั้งนี้ตัวเลขชุดนี้จะใช้ได้แค่ครั้งเดียวและจะหมดอายุภายในเวลา 30 วินาที แต่ไม่ต้องตกใจไประบบจะสร้างใหม่ทุกๆ 30 วินาที
เรียกได้ว่าแอพ Google Authenticator จะคล้ายกับการรับรหัส OTP ที่ส่งมาทาง SMS ในมือถือนั้นเอง เป็นการรักษาความปลอดภัยในการล็อกอินเข้าบัญชีการเงิน การโอนเงิน หรือบัญชีโซเซียลต่างๆ ก็ใช้การยืนยันตัวตน 2 ชั้น ด้วยการรับรหัส OTP ผ่านแอพ Authenticator ปลอดภัยแบบไม่ต้องใช้เบอร์โทรศัพท์
เป็นอย่างไรกันบ้าง หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ให้กับทุกท่านเพื่อป้องกันการแฮกข้อมูล ถึงจะยังไม่เกิดแต่การป้องกันไว้ก่อนก็เป็นประโยชน์แก่ผู้ใช้แน่นอน อยากติดตามข่าวสารที่เป็นประโยชน์ ติดตาม DIGITORY ได้เลย